เบสท์ น้ำตาไหล อัพเดตอาการป่วย สมรักษ์ คำสิงห์ เศร้าเห็นพ่อร้องไห้ในห้อง ICU

เบสท์ น้ำตาไหล อัพเดตอาการป่วย สมรักษ์ คำสิงห์ เศร้าเห็นพ่อร้องไห้ในห้อง ICU

เบสท์ รักษ์วนีย์ น้ำตาไหล อัพเดตอาการป่วย สมรักษ์ คำสิงห์ เศร้าเห็นพ่อร้องไห้ในห้อง ICU

วันที่ 10 ธ.ค.2567 ที่ ชั้น4 สถาบันสุขภาพและความงามตรัยญา พระราม9 นักแสดงและยูทูบเบอร์ชื่อดัง เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์ มาร่วมงานเปิดตัวเทคโนโลยีแปลงโฉมระดับโลก “Endolift X” หลังจบงานเจ้าตัวให้สัมภาษณ์อัพเดตอาการป่วยของคุณพ่อสมรักษ์ คำสิงห์ หลังมีอาการเส้นเลือดในสมองตีบ จนต้องแอดมิต ICU ด่วน

อัพเดตอาการคุณพ่อหน่อย? “ตอนนี้คุณพ่อออกจากโรงพยาบาลแล้วค่ะ แต่ก็ต้องตามดูอาการเรื่อยๆ เพราะยังมีหัวใจที่เต้นช้ากว่าปกติอยู่ สาเหตุที่คุณพ่อต้องเข้าไอซียูเกิดจากภาวะเส้นเลือดในสมองตีบ แต่คุณหมอบอกว่าเป็นระยะที่2 ไม่ได้เป็นระยะแรก เนื่องจากเราเห็นที่หลายคนแชร์กันว่าถ้าเกิดเป็นระยะแรกไปโรงพยาบาลทัน 4 ชั่วโมง ฉีดยาแล้วก็จะดีขึ้น“

”แต่ของคุณพ่อเป็นมาระยะหนึ่งแล้ว จนเส้นเลือดที่เราเห็นในภาพเอ็กซเรย์สมองข้างขวาเป็นก้อนสีดำคือเหมือนเลือดไปเลี้ยงไม่หมด ต่อให้เรามาทัน 4 ชั่วโมงแรกก็ไม่ทัน เลยต้องรักษาตามอาการ แต่ด้วยความที่คุณพ่อยังพูดได้ ตอบสนองได้ คุณหมอก็เลยยังไม่ได้ผ่าตัดอะไร เลยให้นอนไอซียู“

”ก่อนหน้านั้นไม่มีใครทราบว่าคุณพ่อป่วยเป็นโรคนี้ ตอนกลางคืนยังกินข้าวคุยกันปกติ แต่พอตื่นเช้าขึ้นมาหน้าคุณพ่อทางด้านซ้ายคือเบี้ยว แล้วก็เดินเซทรงตัวไม่ได้ หยิบกาแฟมากินก็ไม่ได้ ถือโทรศัพท์มาเล่นก็ไม่ได้ จนต้องไปโรงพยาบาลแล้วก็ได้รู้ว่าเขาเป็นเส้นเลือดในสมองตีบระยะที่2“

”ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าเกี่ยวกับการที่คุณพ่อเอาแอลกอฮอล์ไปหยอดใส่หู อันนี้ไม่น่าเกี่ยวนะคะ เพราะว่าคุณหมอไม่ได้บอกว่าเกี่ยว หูนี่น่าจะเป็นความดื้อส่วนตัว แต่สมองเหมือนเป็นมาระยะหนึ่งเลย คุณหมอก็ถามว่าเคยออกอาการอะไรก่อนหน้านี้ไหมเวลาอยู่บ้าน แต่ทุกอย่างปกติค่ะ แม้กระทั่งตอนกลางคืนนั้นก็ยังคุยปกติอยู่ เพราะคุณหมอบอกว่าถ้าเป็นระยะแรกจะพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง เดินเซ แต่กรณีของคุณพ่อคือพูดเรื่องทุกอย่าง แล้วก็เดินปกติ มีแค่เช้าวันนั้นที่สื่อสารไม่ค่อยปกติและหน้าเบี้ยว”

“คุณพ่อบอกว่าก่อนหน้านี้เขาเคยรู้สึกเหมือนแขนข้างซ้ายชา แต่ตอนนั้นก็คิดว่าเหน็บกิน อาจจะนั่งนานหรือว่าเล่นโทรศัพท์นาน เขาก็เลยไม่ได้เอะใจว่าเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ ซึ่งอันนี้ก็คืออันตรายมากถ้าเกิดใครดูอยู่ก็อยากให้รีบเช็ก”

“ตั้งแต่เราจำความได้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่คุณพ่อเข้าไอซียู ปกติคุณพ่อไม่ค่อยป่วย คุณพ่อนอนอยู่ไอซียู 4 วัน แล้วก็ออกมาห้องพักธรรมดาอีก 4-5 วัน ถามว่าใจหายไหมที่เห็นคุณพ่อเป็นแบบนี้(น้ำตาไหลพูดต่อไม่ได้)”

เห็นบอกว่าคุณพ่อหัวใจเต้นช้ากว่าปกติด้วย? “หลังจากที่คุณพ่อออกมาพักห้องปกติก็ตรวจพบว่าหัวใจเต้นช้าลง(เสียงสั่น) วันนี้ไม่ได้ตั้งใจร้องไห้เลย ขอโทษนะคะ ตอนนี้ก็ดูแลตามอาการ หมอนัดให้ไปตรวจทุกอาทิตย์ ส่วนเรื่องหัวใจเหมือนต้องทำ Sleep Test ด้วยเพราะว่าในขณะที่หลับคุณพ่อมีหยุดหายใจ”

กลับไปอยู่บ้านแล้วกำลังใจของคุณพ่อดีขึ้นไหม? “ดีขึ้นนะคะ ความที่เขาเป็นคนดื้อก็ไม่อยากอยู่โรงพยาบาลอยู่แล้ว พอกลับมาบ้านเขาก็ดูแฮปปี้ขึ้น คุณหมอบอกว่าให้กายภาพ เขาก็จะเดินทุกเช้าวันละ 10-20 นาที สิ่งที่คุณหมอห้ามเลยคือเรื่องของอาหารบางอย่างเพราะว่าคอเลสเตอรอลสูงเกือบ 300 แล้วก็ไขมันกับน้ำตาลต้องลดเพราะอีกนิดเดียวก็จะเป็นเบาหวาน”

“ส่วนตัวเราเองก็ไม่ได้เข้มงวด แต่บอกเขาเลยว่าถ้าดื้อก็อาจจะต้องไปนอนไอซียูอีกนะ เราจะใช้โหมดดุนิดหนึ่งไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ยอมฟัง ทุกวันนี้คนในบ้านก็ช่วยกันดูแล คุณแม่ก็ยังอยู่บ้านหลังเดียวกันกับคุณพ่อเพียงแต่ว่านอนคนละห้อง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคุณแม่ที่คอยดู วันไหนเดินเยอะเกินไปก็จะมาบอกเราเพราะคุณแม่เองก็เป็นห่วง ส่วนคุณพ่อเองก็อยากกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม ขับรถได้หรือว่าไปไหนได้ เพราะว่าตอนเนี่ยคือขับรถไม่ได้เลย คุณพ่อห้าม แล้วอากาศร้อนๆ ก็ไม่ได้เพราะเดี๋ยวเป็นสโตรกอีก“

คุณพ่อเองได้ให้กำลังใจคนในครอบครัวด้วยไหม? ”คือที่เห็นว่าเราเศร้าๆ เพราะว่าเขาร้องไห้ เขากลัว แล้วเราก็เลยกลัวไปด้วย ยิ่งเห็นพ่อร้องไห้ก็จะร้องตาม ปกติคุณพ่อไม่เคยร้องไห้ให้เห็น แต่อันนี้คือนอนไอซียูคืนแรกเขาร้องไห้เลย เขากลัวเพราะไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องมานอนแบบนี้ แล้วตอนนั้นยังขยับข้างซ้ายไม่ได้ด้วยเลยยิ่งกลัวมาก ทีนี้พอเขาร้องไห้เราก็ช็อกไปเลยที่เห็น“

ค่าใช้จ่ายสูงเหมือนกัน? ”ใช่ค่ะ คุณพ่อดื้อด้วยไม่ได้ทำประกันเลย เพราะคิดว่าตัวเองแข็งแรง แต่เราก็สามารถดูแลพ่อได้ เสียเงินไม่ได้ซีเรียสแต่ไม่อยากให้ป่วยมากกว่า“

ตอนนี้ยังกังวลอะไรอยู่ไหม? ”ตอนนี้ไม่ได้กังวลคุณพ่อแล้วค่ะเพราะว่าเขาค่อนข้างเชื่อฟัง คือเขาก็กลัวเหมือนกัน แต่เราจะไปกังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นมากกว่าว่าจะมีอะไรอีกไหม อย่างก่อนหน้านี้น้องชายแขนหัก แล้วก็มาคุณพ่อเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ ไม่รู้ว่าอาทิตย์หน้าเดือนหน้าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก อันนี้คือสิ่งที่กังวลทั้งที่ตัวเองเป็นคนที่ไม่ได้กังวลเรื่องอนาคตเลย แต่ทุกวันนี้กังวลแล้วเพราะมันน่ากลัวมาก“

แล้วพฤติกรรมของคุณพ่อเวลาคันหูหรือหูอื้อแล้วชอบเอาอะไรไปหยอด ทุกวันนี้ยังต้องระวังอยู่ไหม? “อันนั้นเขาทำตอนสมัยเล่นละครค่ะ แต่ว่ามันเพิ่งมามีผลในตอนปัจจุบัน พอผ่านมา 3-4 ปี เขาค่อยมารู้สึกว่าไม่ได้ยินเพราะว่าแก้วหูทะลุ เลยทำให้ต้องใช้เครื่องช่วยฟังซึ่งต้องใช้ไปตลอดชีวิต“

หลายคนชื่นชมว่าเราดูแลครอบครัวดี? ”ขอบคุณทุกคนมากเลยค่ะ ที่ส่งกำลังใจมาให้ เรารู้สึกว่าพอมีเรื่องที่มันหนักๆ เพราะทุกปีจะเกิดเรื่องอะไรสักอย่างกับเรา แล้วทุกคนก็จะมาให้กำลังใจ ไม่รู้จะขอบคุณหรือตอบแทนยังไงก็อยากจะบอกว่าเราจะเป็นศิลปินนักแสดงและยูทูบเบอร์แบบนี้ตลอดไป แล้วถ้ามีโอกาสได้เจอหรือได้ตอบแทนอะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ยินดีมากค่ะ“

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *